คงไม่มีใครปฏิเสธเลยว่า การล้างกระจกฉากกั้นอาบน้ำให้ใสสะอาดเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากเลยใช่ไหมล่ะคะ มีเทคนิคการล้างต่างๆมากมายที่แชร์กัน ซึ่งใช้ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง บางคนลองมาหลายวิธีก็ไม่ได้ผลเลยก็มีค่ะ แล้วทำไมมันจึงล้างยาก หรือล้างไม่ออกเลยล่ะ?
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าคราบที่ขาวๆบนกระจกฉากกั้นอาบน้ำ คืออะไรกันแน่…
คราบสบู่ หรือ ไคลสบู่ (Soap Scum) ส่วนใหญ่จะพบบนกระจกหรือส่วนต่างๆที่อยู่ใกล้จุดอาบน้ำ ต่างจากคราบหินปูน (Limescale) ที่อยู่บริเวณรูของฝักบัว ก๊อกน้ำ หรือในกาน้ำร้อน
คราบสบู่เกิดจาก ไขมันจากร่างกายของเรา ผสมกับสบู่ขณะอาบน้ำ และไปทำปฏิกริยากับแร่ธาตุที่ปนมากับน้ำ ได้แก่ แคลเซียม แมคนีเซียม แล้วไปเกาะติดเป็นคราบสีขาวๆบนกระจก ซึ่งน้ำที่มีแร่ธาตุเหล่านี้ผสมอยู่มากเราเรียกว่า น้ำกระด้าง ยิ่งน้ำกระด้างมากเท่าไร่ คราบสบู่ก็จะยิ่งเกิดง่ายและเร็วขึ้นค่ะ
สิ่งที่อันตรายและเป็นภัยต่อกระจกก็คือคราบขาวนี้เอง สบู่ที่มีสารตั้งต้นในการผลิตคือโซดาไฟ เมื่อผสมกับไขมันและแร่ธาตุในน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นคราบสบู่ติดแน่นบนกระจกก็จะยังคงความเป็นด่างสูงมาก (มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ เมื่อเจอกับน้ำก็จะกลายเป็น โซเดียมไฮดร็อกไซด์ หรือ โซดาไฟ) และด้วยความเป็นด่างสูงนี้เอง หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ เป็นเดือนๆ เป็นปีๆ ก็จะค่อยกัดกร่อนผิวกระจกจนเป็นรอยลึกลงไปได้เลยค่ะ (ภาพตัวอย่างคราบสบู่ที่ถูกทิ้งไว้ประมาณ 10ปี)
หากเราไปซื้อโซดาไฟ จะสังเกตุได้ว่าภาชนะบรรจุจะไม่ใช้ขวดแก้ว (ทั้งๆที่สารเคมีอันตรายส่วนใหญ่ต้องใส่ขวดแก้ว) เพราะถ้าเก็บในขวดแก้วนานๆ แก้วจะโดนกัดกร่อนได้ค่ะ
หากไม่ปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็สามารถล้างออกได้เกือบ 100% อย่างไม่มีปัญหา ด้วยน้ำยาและอุปกรณ์ที่เหมาะสมนะคะ คราบยิ่งหนาก็อาจยิ่งล้างออกยาก ซึ่งเป็นตัวแปรอย่างหนึ่งที่ทำให้บางวิธีที่แชร์กันใช้ไม่ค่อยได้ผล
และควรหลีกเลี่่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง เพราะไม่เพียงล้างคราบออก แต่จะเกิดความเสียหายกับพื้นผิวและอุปกรณ์อื่นๆด้วย เช่น หากโดนชิ้นส่วนโลหะจะถูกกัดและเป็นสนิมได้ทันทีค่ะ การล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดออแกนิคก็เป็นอีกทางเลือกที่ใช้ได้ผลดีและปลอดภัยค่ะ
หากผิวกระจกยังดีอยู่ ล้างคราบออกแล้วกระจกก็จะใสสะอาดเหมือนใหม่ (ภาพตัวอย่างกระจกใช้งานมาประมาณ 1 ปี)
จุดสำหรับคือ ห้ามปล่อยคราบสบู่ไว้นานๆเด็ดขาด ควรล้างอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาผิวกระจกให้คงสภาพดี (ภาพตัวอย่างกระจกอายุ 8 ปี ล้างเป็นประจำ)
หากปล่อยทิ้งไว้นานๆแล้วล่ะก็ จากภาพตัวอย่าง คราบสามารถล้างออกได้ส่วนหนึ่ง 80-90% แต่ก็ยังคงมีบางส่วน จะมองเห็นเป็นรอยบางๆ (คราบแบบนี้จะเห็นได้บางมุมไม่เหมือนคราบสบู่ที่มองมุมไหนก็เห็นนะคะ) รอยแบบนี้แหละค่ะ คือผิวกระจกถูกกัดกร่อนไปแล้ว ล้างยังไงก็ไม่ออก เพราะมันไม่ใช่คราบสกปรก แต่เป็นผิวกระจกที่เป็นรอยลึกลงไปนั่นเองค่ะ
หากถามว่าถ้าผิวเสียแล้วทำอย่างไรได้ไหม ก็ยังพอมีวิธีแก้ไขได้ระดับหนึ่งนะคะ ในโอกาสต่อไปจะนำเคล็ดลับดีๆมาฝากกันอีกค่ะ
อย่าลืมแวะชมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดออแกนิค ปราศจากสารเคมีที่ http://www.resparkle.co.th ใช้โค้ด HomeDetox ลดเพิ่ม On Top อีก 10%
Facebook: Resparkle Thailand
Line: @resparklethailand